แต่เผื่อใครอยากนำเข้ามาขี่เล่นก็จะได้อ่านเป็นแนวทางนะครับว่าหลังขี่ไปสัปดาห์นึงแล้วนั้นความรู้สึกเป็นอย่างไร
แต่พอเห็นหน้าตาแล้วผมก็รู้ทันทีว่าอยากจะขับคันไหน
มอเตอร์ไซค์ Honda CBR นั้นให้แรงม้ามากกว่าอยู่ 2 แรงม้าและมีชิ้นส่วนต่างๆที่ดีกว่า ยางหลังที่ใหญ่กว่า และ
ดูดีกว่าอีกด้วย ถือว่าสมบูรณ์ในตัวเอง แต่สำหรับผมแล้วขอลองเจ้าตัว CBF ดีกว่า ปล่อยให้เพื่อนผมไปลองเจ้า CBR
ส่วนผมก็พยายามแทรกไปมาระหว่างรถบรรทุก พอเข้าเลนกลางเพื่อแซงก็พบกับแรงปะทะลมอย่างแรง
แรงม้าน้อยกว่านิดหน่อยแต่ก็พอไปได้
แต่พอลงจากมอเตอร์เวย์และขับไปตามถนนคดเคี้ยว ผมก็เริ่มชอบเจ้ามอเตอร์ไซค์คันนี้มากขึ้น แรงม้าขนาด 11 แรงม้า และ
เครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยอากาศนั้นอาจจะดูเหมือนไม่ค่อยมีพลังหากดูแค่ตัวเลข
แต่ในความเป็นจริงแล้วมันให้ความรู้สึกเหมือนจะมีแรงบิดมากกว่าเจ้า CBR ด้วยซ้ำ
เมื่อพลังเครื่องยนต์จำกัด ความเร็วรถก็จะมาจากระบบเกียร์และการลู่ลมเสียมากกว่า
และจากการลองทดสอบ drag race เล่นๆก็ยืนยันได้ว่ามอเตอร์ไซค์ทั้งสองรุ่นนั้นเหมือนๆกันที่ความเร็วถึงราวๆ 65 กม/ชม
หลังจากนั้น CBR ก็จะมีแรงมากกว่า
สำหรับคนที่กำลังเริ่มต้นมุมเลี้ยวเหมือนจะกว้างมากทำให้การเลี้ยวกลับ U-turn นั้นทำได้ง่าย และ
ระบบเกียร์เหมือนจะลื่นไหลกว่ารุ่น R เบาะนั่งก็สบายและท่านั่งก็โอเค
แถมราคายังถูกกว่า CBR เกือบ 50,000 บาท (ราคาในอังกฤษ)
ถ้าคุณจะจูงใจวัยรุ่นให้เลือก CBF ในแง่ของการใช้งานยากหน่อย แต่หากมองในแง่ราคาเทียบกับประสิทธิภาพแล้ว
ถือว่า CBF นั้นน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งแทบไม่ต้องคิดเลย แถมยังประหยัดน้ำมันที่ 99 ไมล์ต่อแกลลอน
เทียบกับรุ่น R ที่ 91 ไมล์ต่อแกลลอน ค่าประกันรถมอเตอร์ไซค์รุ่น F ก็ถูกกว่าด้วย
สิ่งที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดของทั้งสองรุ่นก็คงเป็นเรื่องสภาพการขับขี่ โดยกันสะเทือนหน้าและ
หลังของ CBF นั้นอ่อนเกินไปทำให้เด้งดึ๋งมากไปหน่อย ดังนั้นหากคุณฝันถึงการขับหมอบเข้าโค้งที่ความเร็ว
โดยไม่ไปจมอยู่กับทุ่งหญ้าข้างทางแล้วละก็ คุณอาจจะต้องมองรุ่น CBR
Model tested: Honda CBF125
Price: £2,600 OTR
Power: 11hp
Fuel economy on test: 99.6mpg
Tank capacity: 13L
Seat height: 792mm
Colours: red, white, black
