กับยอดขายถล่มทลายกว่า 90,000 คัน ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยตัวมันเองถูกตั้งฉายาใหม่ว่า
"The Liberator" เนื่องจากเป็นยานพาหนะของฝ่ายพันธมิตรในการเผด็จศึกทหารฝ่ายเยอรมัน
เพื่อช่วยปลดปล่อยผู้คนให้เป็นอิสระนั่นเอง
สื่อความหมายว่าเป็นรถเฉพาะกิจที่ใช้เฉพาะช่วงของสงครามและเพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ทางฮาร์เล่ย์ฯ
จึงตั้งราคาค่าตัว "WLA" ไว้ในราคาที่ไม่แพงนัก ลดคุณภาพของโครเมียมและนิกเกิลบนตัวรถ
ใช้เครื่องยนต์อัตราส่วน 5:1 ซึ่งน้อยกว่าโมเดลมาตรฐาน เพื่อให้รถสามารถคงสมรรถนะทำงานร่วมกับ
เชื้อเพลิงเกรดต่ำที่ใช้ในช่วงสงครามโลกได้
แต่ก็แลกมาด้วยการบำรุงรักษาที่เบาลง บังโคลนสไตล์ "WL" ที่ดูกว้างและใหญ่ถูกลดขนาดปรับเตี้ยลง
ครอบคลุมล้อหลังช่วยป้องกันดินโคลนและเศษขยะได้อย่างดีเยี่ยม โดยหลังจากที่สงครามจบ "WLA"
ถูกแปลงโฉมให้ทันสมัยมากขึ้น บังโคลนที่ดูเหมือนจะเป็นเอกลักษณ์ของรถรุ่นนี้ก็ถูกปรับขนาดใหม่ให้ใหญ่ขึ้นด้วย
ที่น่าสนใจที่สุดคือมันไม่ได้ถูกสร้างหรือซ่อมใหม่แต่อย่างใดเลย เครื่องยนต์ยังคงทำงานได้ปกติเหมือนเมื่อหลายสิบปีก่อน
ระบบเกียร์ยังแม่นยำ สะท้อนถึงความอึดแข็งแกร่งของรหัส "WLA" ได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า
ผู้ออกแบบ "WLA" ไม่ได้สร้างคาแรคเตอร์ของมันให้เป็นรถที่ใช้ความเร็ว แต่กลับเป็นเรื่องของการยืดอายุ
การใช้งานตัวรถเสียมากกว่า
ขอบคุณแหล่งที่มาข้อมูล: HD-Playground