Top 10 Adventure Bike (1000cc+) ที่สายลุยไม่ควรพลาด

10. MotoGuzzi Stelvio
ชื่อนี้อาจไม่คุ้นหู และหลายคนอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่า MotoGuzzi ผลิตรถ Adventure Bike ด้วย
มันมากับเครื่องไซส์ 1200cc V-Twin ที่ใช้ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศอยู่แต่สำหรับผู้ที่มีความภักดีในแบรนด์ของ MotoGuzzi
แล้วใช่เรื่องยากที่พวกเขาจะเจียดเงิน 11,635 ปอนด์เพื่อซื้อ Stelvio คันนี้
9. Aprilia Caponord 1200
ด้วยเครื่องยนต์ V-Twin ระบายความร้อนด้วยน้ำ 125 แรงม้า (hp) ที่มีสมรรถนะยอดเยี่ยม และเทคโนโลยีอย่างช่วงล่าง Adaptive
และ Traction Control ซึ่งทำให้มันน่าสนใจขึ้น กับราคา 14,135 ปอนด์ ถือว่ามันเป็นรถ Adventure ระดับพรีเมี่ยมเลยก็ว่าได้
8. Suzuki V-Strom 1000
ได้ขยายความจุใหม่จาก 996cc ไปเป็น 1,037cc ซึ่งยังคงพื้นฐานจากเครื่อง V-Twin 90 องศา เฟรมอลูมีเนียม
ช่วงล่างปรับระดับได้จาก KYB เบรก monoblock จาก Tokico พร้อม Traction Control ครั้งแรกของ Suzuki
ทำให้มันติดอันดับ Top10 ในครั้งนี้ได้อย่างไม่ยากเย็น
7. Honda Crosstourer
แม้ว่าหลายคนเราจะรอชมเจ้า Africa Twin ซึ่งถือเป็นรถ Adventure พันธุ์แท้ แต่สำหรับ Crosstourer
ซึ่งถือแม้ว่าชื่ออาจจะฟังดูเหมาะกับการขับขี่เดินทางไกลมากกว่าการขี่ลุยทาง Off-Road แต่ด้วยเครื่องยนต์ V4 และเทคโนโลยีเกียร์ DCT
รวมไปถึงน้ำหนักตัวที่หนักเอาเรื่อง 275 กก. ส่งผลให้มันติดโผลมาในอันดับ Top10 Adventure bike นี้ด้วย
6. Triumph Tiger Explorer/XC
เจ้า Tiger Explorer ถือเป็นรถ Hi-technoly ที่สุดของ Triumph แล้วกว่าได้ มันมากับเครื่องยนต์ 1,200cc
3สูบเรียงอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Triumph และน้ำหนักตัวที่สมกับเป็นเจ้าป่า ที่ 267 กก.
ถึงอย่างไรก็ดีมันยังคงเป็นรถที่เหมาะกับการขี่บนถนนมากกว่าลุยทางฝุ่น
5. Yamaha Super Trenere
แม้มันจะเป็นรถที่ถูกเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2010 จวบจนปัจจุบันนี้เป็นเวลา 5 ปีแล้ว กับเครื่องยนต์ 2 สูบ 1,200cc ระบายความร้อนด้วยอากาศ
แต่ยังดีที่มันได้เสริมเทคโนโลยีใหม่ YCC-T จาก Yamaha, Traction Control และ D-Mode เพิ่มเข้ามาในตัวปี 2015 นี้
4. KTM 1190 Adventure
ชื่อนี้ไม่เป็นลองใคร ในเรื่องของสมรรถนะเครื่องยนต์ V-Twin 1,195cc 148 แรงม้า ซึ่งขนาดเล็ก น้ำหนักเบาและทนทาน
ด้วยน้ำหนักตัวที่เบาเพียง 217 กก. จากซับเฟรมอลูมีเนียมทำให้มันมีความคล่องตัวสูง แถมควบคุมง่าย รวมไปถึงช่วงล่าง WP
ที่พร้อมลุยได้จริง ซึ่งดีกว่าเพื่อนๆรถยุโรปคันอื่นๆ
3. Ducati Multistrada
2015 Multistrada ถือเป็นรถทีอัดแน่นเทคโนโลยีมาใหม่แทบทั้งคัน ทั้งชึดไฟหน้า LED เครื่องยนต์ Testastretta
1,198 V-Twin มาพร้อมวาล์วแปรผัน Desmodromic เป็นครั้งแรกของรถ Ducati กำลังแรงสะใจ 160 แรงม้า
แถมยังติดตั้งหน้าจอ TFT แบบรถยนต์ และโหมดขับขี่อีก 4 รูปแบบ
2. BMW R1200GS
สุดยอดรถที่เหมาะแก่ทุกสายการวิ่ง ไม่ว่าจะเป็น On-Road, Off-Road
ด้วยเครื่องยนต์ Boxer 1,170cc 2 สูบ ที่ขึ้นชื่อในเรื่องระบบระบายความร้อนด้วยน้ำที่ดีเยี่ยม และยิ่งตอนนี้ราคาในประเทศอยู่ที่ไม่ถึง 1 ล้านบาท
ถือเป็นรถยุโรปที่มีสมรรถนะ น่าเล่นมากเมื่อเทียบกับราคาความคุ้มค่า
1. KTM 1290 Super Adventure
หาก 1190 Adventure มีเครื่องยนต์ที่ยอดเยี่ยมแล้วล่ะก็ เจ้า 1290 ที่ใช้ชื่อว่า Super ยิ่งต้องยอดเยี่ยมกว่าเป็นแน่
ด้วยขุมพลังจาก Super Duke R ที่สุดของ Naked Bike สายโหด แต่ลดทอนแรงม้าลงเหลือ 160 ตัว (เท่ากับ 2015 Multistrada)
นอกจากนี้มันยังมาพร้อมของเล่นสุดเจ๋งมากมาย ทั้ง Stability Conrol, Cornering ABS, Cruise Control,
Heater Seat รวมไปถึงออปชั่นที่ใช้งานได้จริงและดีเยี่ยมอย่าง Electronic Hill Hold Control
ที่มา: autospinn.com
Share on Google Plus