5 สิ่งผิดปกติที่ต้องสังเกต ก่อนรถจะพัง

อะไหล่ทุกชิ้นส่วนของรถล้วนมีความสำคัญ และวันหมดอายุ เสื่อมสภาพตามกาลเวลา โดยแต่ละชิ้นส่วน
จะมีอาการเตือนให้ผู้ขับขี่รับรู้แตกต่างกันไป หรือบางครั้งอาจหยุดไม่ทำงานไปเลย เพราะฉะนั้นเราควรมีความรู้เบื้องต้น
เพื่อที่จะได้ลองสังเกตอาการต่างๆ ของรถ
1. สตาร์ทติดยาก
เมื่อสตาร์ทเครื่องแล้วมักจะมีอาการเหมือนสตาร์ทติด แล้วก็ดับไป หรือติดอยู่สักพักก็ดับ หรือไม่ติดเลย อาจมีสาเหตุหลักๆ มาจาก ระบบเชื้อเพลิง
น้ำมันอาจเหลือแค่ก้นถัง ไม่พอที่จะไหลลงระบบฉีดน้ำมัน, ไส้กรองเชื้อเพลิงอุดตันหรือสกปรก, ระบบหัวฉีดจ่ายน้ำมันอุดตัน, เครื่องมีอุณภูมิที่ต่ำไป เป็นต้น
ถ้าสตาร์ทติดยากให้ลอง สตาร์ทด้วยเท้า เว้นระยะแล้วค่อยลองสตาร์ทอีกครั้ง อาจจะต้องทำบ่อยเพื่อวอร์มเครื่องที่มีอุณภูมิต่ำ

2. กลิ่นและควัน
ลองสังเกตกลิ่นแปลกๆ ที่มาจากส่วนต่างๆ เช่น กลิ่นไหม้, กลิ่นน้ำมันเบนซิน ซึ่งอาจมีระบบไฟฟ้าลัดวงจรบางจุด หรือเกิดการรั่วซึมของทางเดินน้ำมัน
ส่วนมากควันจะมาพร้อมกับกลิ่น ลองสังเกตว่ามีควันออกจากจุดไหน ถ้ารถมีควันหรือกลิ่นออกมาให้จอดรถในที่ปลอดภัย ดับเครื่องทันที
ถ้ามีความรู้เรื่องเครื่องยนต์รีบถอดขั้วแบบออกก่อน และรีบนำเข้าศูนย์บริการ

3. แฮนด์หนัก ล้อแกว่ง
ขณะขับรถแล้วรู้สึกว่าต้องออกแรงบังคับแฮนด์มากกว่าปกติ เวลาขับแล้วมีอาการเอียงไปทางซ้ายหรือขวา สาเหตุอาจมาจากรถตกหลุมบ่อย, รถล้ม,
หรือบรรทุกหนักเกินไป อาการแกว่ง จะเป็นเมื่อรถมีความเร็วสูง สาเหตุมาจากวงล้อคด ทำให้เมื่อหมุนแล้วไม่สมดุล ถ้ามีอาการนี้ให้ลดความเร็วลง และนำเข้าศูนย์บริการตรวจเช็ค

4. สะเทือนกว่าปกติ
เวลาขับขี่บนทางที่ไม่เรียบ จะเกิดอาการสะเทือนเกินกว่าปกติ สาเหตุเกิดมาจากระบบโช๊คอัพชำรุด หรือเสื่อมสภาพ เช่น โช๊คอัพแตก รั่ว, แกนโช๊คอัพคดงอ
หากมีอาการแบบนี้ขณะขับขี่ ควรขับด้วยความระมัดระวัง ใช้ความเร็วต่ำ นำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อเช็คช่วงล่าง

5. สะดุดเวลาเร่งเครื่อง
อาการนี้ดูจะเบากว่าอาการสตาร์ทไม่ติด แต่แท้ที่จริงแล้วเป็นอาการความผิดปกติของระบบเครื่องยนต์อยู่ แม้ว่าเครื่องยนต์จะสามารถทำงานได้
แต่ผ่านไปสักระยะหนึ่งเครื่องยนต์จะดับ หรืออาจถึงขั้นเครื่องน็อค ถ้ามีอาการนี้ให้ใช้ความเร็วต่ำและรีบนำเข้าศูนย์บริการ
หากผู้ขับขี่ใส่ใจ เพิ่มความช่างสังเกตต่ออาการต่างๆ ของรถ จะช่วยให้เราประหยัดเงินในการซ่อมแซม บำรุงรักษา และยืดอายุการใช้งานของรถ
และรวมถึงความปลอดภัยของตัวผู้ขับขี่เองด้วย

ที่มา: เช็คราคา.คอม
ที่มาภาพ: Honda Motorcycle Thailand
Share on Google Plus