ซึ่ง DVT ย่อมาจาก “Desmodromic Variable Timing” ถือได้ว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่
สำหรับวงการรถจักรยานยนต์ และดูคาติเองก็เป็นเจ้าแรกที่นำเทคโนโลยีนี้มาใช้กับรถจักรยานยนต์
DVT จะเป็นการควบคุมจังหวะการเปิด - ปิด ของวาล์วไอดี และวาล์วไอเสียให้มีความเหมาะสมที่สุดกับทุกช่วงของรอบ
และภาระที่เกิดกับเครื่องยนต์ เจ้าระบบนี้จะถูกควบคุมโดย ECU ของเครื่องยนต์โดยอาศัยข้อมูลจากเซ็นเซอร์ตำแหน่งเพลาลูกเบี้ยวไอดี
และไอเสีย มาคำนวณร่วมกับเซ็นเซอร์วัดรอบเครื่องยนต์ เพื่อปรับจังหวะการเปิด-ปิดวาล์วไอดี และไอเสียอย่างแม่นยำ
ประโยชน์ที่ได้จากระบบ DVT คืออะไร
ที่รอบเครื่องยนต์สูงๆ ECU จะสามารถสั่งให้วาล์วไอดี และไอเสีย ทำงานแบบ overlap ได้ถึง 53 องศา
ซึ่งทำให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดของเครื่องยนต์ออกมาใช้
ในขณะที่เครื่องยนต์รอบต่ำ และภาระของเครื่องยนต์น้อย วาล์ว overlap ก็จะน้อยลงหรืออาจ ไม่มีการ overlap เลย
ทำให้เครื่องยนต์ทำงานราบเรียบและมีสเถียรภาพ ขณะที่เครื่องยนต์ทำงานในช่วงของรอบปานกลาง ECU
จะควบคุมการ overlap ของวาล์วให้มีประสิทธิภาพที่สุดเพื่อการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง
ซึ่งก็ช่วยให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ตัวก่อน ได้ถึง 8% เลยทีเดียว
ในขณะสตาร์ทเครื่องยนต์วาล์วไอดีจะถูกสั่งให้ปิดช้าลง ทำให้ได้กำลังอัดเครื่องยนต์ต่ำ
ผลก็คือเครื่องยนต์หมุนง่ายและสตาร์ทติดง่ายนั่นเอง
เครื่องยนต์ตัวนี้ยังมีคุณสมบัติดีๆเพิ่มเติมอีกได้แก่
Dual spark plugs คือ มีสองหัวเทียน ต่อ หนึ่งกระบอกสูบ ทำงานแบบอิสระ ในขณะเครื่องยนต์ทำงานรอบต่ำ และ
มีภาระน้อย หัวเทียนจะจุดพร้อมกัน แต่ที่รอบสูงเครื่องยนต์ต้องการสมรถณะที่สูง หัวเทียนก็จะจุดในช่วงเวลาที่ต่างกัน
Knock Sensor จะช่วยตรวจสอบสัญญาณการเขกของลูกสูบกับกระบอกสูบเพื่อทำการปรับองศาการจุดระเบิดอย่างเหมาะสมที่สุด
เป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้เครื่องยนต์ โดยที่ลูกค้าไม่ต้องกังวลกับเรื่องคุณภาพของน้ำมันเพลิงอีกต่อไป
ข้อมูลเพิ่มเติม: Valve overlap คือ ก่อนสิ้นสุดจังหวะคาย แล้วเริ่มจังหวะดูด วาล์วไอดีจะเริ่มเปิด ก่อนที่วาล์วไอเสียจะปิดสนิท
ที่มา: Ducati Thailand